เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และกรรมการวัดบ้านไร่ จ่อเอาผิด ดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ศาลาการเปรียญใต้อุโบสถวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระภาวนาประชานาถ วิ. (นุช รตนวิชโย) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เป็นประธานการประชุมเรื่องการจัดงานคล้ายวันเกิดพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) มีพระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน พระครูคชสารวรานุวรวิทย์ เจ้าคณะตำบลด่านนอก พระครูเมตตาอนุรักษ์ เจ้าอาวาสพันชนะ นายบุญเทิด วงศ์กาญจนรัตน์ หรือครูต้อ หลานหลวงพ่อคูณ นายทวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ ไวยาวัจกร และกรรมการวัดบ้านไร่ เข้าร่วมประชุมด้วย เบื้องต้นกำหนดจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน มีมหรสพตลอดงาน มีนักธุรกิจหญิง 2 คนขอเป็นเจ้าภาพจ่ายค่าจัดงานทั้งหมด รวมทั้งสร้างฉัตรยอดเจดีย์หลวงพ่อคูณด้วย เนื่องจากเคยมาขอพรกับรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ที่ศาลา

การเปรียญวัดบ้านไร่ เมื่อ 4 ปีก่อน อธิษฐานว่าถ้าประสบผลสำเร็จในชีวิตจนฐานะดีแล้วจะกลับมาทำบุญให้หลวงพ่อคูณอย่างยิ่งใหญ่

ระหว่างนั้นนายทวัฒน์ชัย แสนประสิทธิ์ หรือกำนันป่อง ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ ได้นำเรื่องหลอดเก็บเลือดหลวงพ่อคูณที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้มาหารือในที่ประชุมด้วย หลังเสร็จการประชุม นายทวัฒน์ชัยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พระภาวนาประชานาถ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ให้ความสนใจมาก และเป็นห่วงเรื่องนี้จะทำให้วัดบ้านไร่เสียชื่อเสียง อยากรู้ว่าผู้นำภาพหลอดเลือดหลวงพ่อคูณมาโพสต์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์อะไร เท่าที่สืบค้นดูข้อมูลหรือโปรไฟล์ของผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า “Veerapan Pong” แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นใคร เท่าที่ตนรับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณมาหลายสิบปี ไม่เคยเห็นหน้าผู้โพสต์รายนี้เลย สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นนักสร้างวัตถุมงคลของพระเกจิที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คาดว่าการนำภาพหลอดเลือดหลวงพ่อคูณมาโพสต์น่าจะหวังผลประโยชน์ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับวัตถุมงคลทางใดทางหนึ่ง

“เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และคณะกรรมการที่ร่วมประชุมวันนี้ ยืนยันว่าไม่ใช่การกระทำของวัดบ้านไร่ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น และมอบหมายให้ตนปรึกษาทนายความเพื่อเข้าแจ้งความที่ สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย.นี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หรือตามความเหมาะสมต่อไป” นายทวัฒน์ชัยกล่าว

เจ้าของหลอดเก็บเลือดหลวงพ่อคูณ พร้อมเจ้าของเฟซบุ๊กผู้โพสต์ภาพจนเกิดดราม่ากระหึ่มโซเชียล อัดคลิปแจงที่มาที่ไป อ้างเคยทำงานแล็บในโรงพยาบาลเป็นคนเจาะเลือดอดีตเกจิดังนาน 3 ปีเต็ม ได้ขออนุญาตท่านแล้วจะเก็บเลือดอบแห้งไว้บูชา ก่อนเปลี่ยนใจนำมามอบให้นักสร้างวัตถุมงคลใช้เป็นมวลสารสร้างพระให้เข้มขลังยิ่งขึ้น ด้านคณะกรรมการวัดบ้านไร่มอบ “กำนันป่อง” ปรึกษาทนายความ เข้าแจ้งดำเนินคดีฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง 

สังคมยังกังขา กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด มีสติกเกอร์แปะข้อความระบุชื่อ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 87 ปี” และมีรหัสผู้ป่วย ลงบนกลุ่มเฟซบุ๊ก “หลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี” อ้างว่า “โลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ น้ำตาจะไหล กราบขอบพระคุณครับ #รุ่นยอดเศรษฐี” เพื่อจะใช้เป็นหนึ่งในมวลสารจัดทำวัตถุมงคล โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งสาธุที่ได้เห็นเป็นบุญตา และบางคนบอกกรณีนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น อาจไม่ใช่ของจริง อยากให้ตรวจสอบว่าหลอดเก็บตัวอย่างเลือดดังกล่าวหลุดออกมาสู่ภายนอกได้อย่างไร ขณะที่ศิษยานุศิษย์ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ เกจิดังวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่มรณภาพไปเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2558 อายุ 92 ปี 71 พรรษา ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างมาก และเตรียมเข้าแจ้งความ ดำเนินคดี เพราะถือว่านำชื่อเสียงหลวงพ่อคูณมาหากิน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กชื่อบัญชี Veerapan Pong ของนายวีรพันธุ์ พงษ์วัฒนานุสรณ์ ทีมผู้สร้างวัตถุมงคลเหรียญหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี และเป็นผู้นำภาพหลอดเก็บเลือดที่อ้างว่าเป็นของหลวงพ่อคูณมาโพสต์ไว้ ภายหลังเกิดกระแสดราม่าในโซเชียล นายวีรพันธุ์ได้โพสต์คลิปไลฟ์ชี้แจงถึงประเด็นหลอดเก็บเลือดของหลวงพ่อคูณว่า ภาพ “โลหิตธาตุ” เป็นของผู้มีจิตศรัทธา ส่งเข้ามาทางอินบ็อกซ์ตน พอได้เห็นดีใจมากเลยนำไปแชร์ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และได้เดินทางไปพบผู้ที่ส่งภาพมาให้แล้ว ขอชี้แจงว่ายังไม่ได้รับโลหิตธาตุดังกล่าว ขอโทษทุกคนหากทำให้เกิดความไม่สบายใจ

ต่อมานายวีรพันธุ์โพสต์คลิปการพูดคุยกับชายสูงวัย เจ้าของภาพหลอดโลหิตธาตุดังกล่าว ระบุชื่อนายพนมศักดิ์ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) อ้างว่าเคยทำงานอยู่ห้องแล็บโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แผนกตรวจเลือดของหลวงพ่อคูณโดยเฉพาะ นายพนมศักดิ์ให้ข้อมูลว่า ตอนหลวงพ่อมีชีวิตได้ไปเจาะเลือด 3 ปีเต็มๆ หมอให้ตนไปเจาะที่วัดและหลวงพ่อมาเจาะที่โรงพยาบาลด้วย ช่วงหลังหลวงพ่ออาพาธเดินไม่ค่อยได้ ตนต้องไปเจาะที่กุฏิวัดบ้านไร่ การเจาะเลือดหลวงพ่อแต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตท่าน กราบแทบเท้าหลวงพ่อทุกครั้งเพื่อให้เจาะให้ได้ เพราะหลวงพ่อมีอภินิหาร แม้จะเห็นเส้น แทงเข็มลงไปแล้ว ถ้าไม่ขออนุญาตก็เจาะไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องกราบขอขมาขอให้เจาะเลือดให้ได้ และบอกหลวงพ่อด้วยว่าหลังจากนำเลือดที่เจาะได้แล้วไปตรวจ ขออนุญาตนำไปเป็นมวลสารเอาไปอบแล้วเก็บไว้บูชา

นายพนมศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนรูปหลอดเก็บตัวอย่างเลือด ตนเป็นคนถ่ายเอง ภาพนี้นานกว่า 10 ปีแล้ว สาเหตุที่ส่งภาพนี้ให้นายวีรพันธุ์ เพราะศรัทธาหลวงปู่มหาศิลา ต้องการนำมวลสารของหลวงพ่อคูณไปร่วมสร้างพระให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และหากไม่ส่งรูปมา ทีมผู้สร้างวัตถุมงคลอาจจะไม่เชื่อ เลยเอาภาพเก่าที่ถ่ายเก็บไว้ส่งไปให้ดูก่อน

ด้านนายวีรพันธุ์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนรับมวลสาร และเป็นผู้สร้างเหรียญรุ่นนี้ เข้าใจว่าสังคมเกิดความไม่สบายใจ คณะกรรมการฯมีความเห็นร่วมกันว่า ขออนุญาตไม่ใช้มวลสารนี้และให้นายพนมศักดิ์เก็บไว้บูชาเองไปก่อน

admin

Thaweechai Jaowattana